11.2 การวางแผนเพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน
การวางแผนเพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน จัดเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะสังเวียนการแข่งขันในธุรกิจปัจจุบัน
และสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยีสารสนเทศอันซับซ้อน ดังนั้นกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือวางแผนทางไอที
จึงนำไปสู่การประเมินศักยภาพและความเสี่ยงขององค์กร
ที่จะต้องเผชิญหน้าเมื่อมีการใช้กลยุทธ์พื้นฐานทางไอทีและเทคโนโลยี เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยในบทที่
2 ที่ผ่านมาเราได้ศึกษาถึงแรงกดดันในการแข่งขัน (ประกอบด้วยการชิงชัยระหว่างคู่แข่งขัน
ภัยคุกคามจากผู้ค้ารายใหม่
ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน อำนาจการต่อรองของลูกค้า และอำนาจการต่อรองของผู้ขายปัจจัยการผลิต)
และการวางแผนกลยุทธ์เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน
(ประกอบด้วยกลยุทธ์พื้นฐาน 5 ประการ เช่น
ความเป็นผู้นำด้านต้นทุน
ด้านความแตกต่าง ด้านนวัตกรรม การเติบโต
และการเสาะหาพันธมิตรทางธุรกิจ)
ทำนองเดียวกันกับแบบจำลองโซ่คุณค่าของกิจกรรมพื้นฐานทางธุรกิจ
ซึ่งแบบจำลองเหล่านี้สามารถนำมาใช้กับกระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อช่วยสร้างความคิดใหม่ๆ
เกี่ยวกับอีบิสซิเนส หรือธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์
การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและไอที มักนิยมใช้แมทริกซ์โอกาสทางกลยุทธ์ (Strategic Opportunities
Matrix) ที่ช่วยประเมินศักยภาพของกลยุทธ์ทางธุรกิจและโอกาสทางไอที ทำนองเดียวกันกับการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่น่าจะเป็นไปได้
แมทิกซ์โอกาสทางกลยุทธ์ ที่ช่วยประเมินถึงความเสี่ยง ศักยภาพการจ่ายคืน และโอกาสทางไอที
การวิเคราะห์ SWOT
(SWOT Analysis)
เป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์
ถึงผลกระทบในแต่ละความเป็นไปได้ของโอกาสทางกลยุทธ์ที่สามารถมีในองค์กรรวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยการกำหนดจุดแข็ง (Strengths) และจุดอ่อน (Weaknesses) ซึ่งเป็นปัจจัยจากภายในองค์กรเอง รวมถึงโอกาส
(Opportunities) และอุปสรรค (Threats) ซึ่งเป็นปัจจัยจากภายนอก
จุดแข็ง ขององค์กรคือ
ความสามารถหลัก (Core Competencies) และทรัพยากรที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาด หรือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้นๆ จุดอ่อน คือการปฏิบัติงานทางธุรกิจในบางส่วนขององค์กรที่ต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อถูกนำมาเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ
หรือเทียบกับในตลาดเดียวกัน ในขณะที่ โอกาส ก็คือศักยภาพสำหรับตลาดธุรกิจใหม่
หรือนวัตกรรมที่มีความก้าวหน้าล้ำสมัย
ที่สามารถนำมาใช้เพื่อขยายตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โดยโอกาสจะเป็นเงื่อนไขจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลต่อจุดแข็ง ส่วน อุปสรรค
ก็คือศักยภาพของคู่แข่งขัน
ที่ส่งผลต่อความสูญเสียทางการตลาดในธุรกิจของเรา และรวมถึงแรงกดดันทางการแข่งขันในด้านอื่นๆ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ
และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาทำลายล้างสิ่งเดิมที่เคยเป็นอยู่
โดยอุปสรรคจะเป็นเงื่อนไขจากสภาพแวดล้อมภายนอก ที่ส่งผลกระทบต่อจุดอ่อนของเรา
ตัวอย่างการวิเคราะห์
SWOT สามารถมาจากปัญหาทางกาตลาด การวิเคราะห์คู่แข่งขัน
โดยนักการตลาดจะกำหนดคู่แข่งขันแต่ละรายที่มีอยู่ในตลาด
ด้วยการมุ่งประเด็นเกี่ยวเนื่องกับการวิเคราะห์ถึงจุดอ่อนและจุดแข็ง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจะมีการตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนของคู่แข่งขันแต่ละรายแหล่งที่มาของรายได้ ทรัพยากรและความสามารถหลัก ตำแหน่งทางการแข่งขัน และความแตกแต่งของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึงระดับการเป็นเจ้าของ หรือการกุมทุกอย่างอยู่ในมือ (Vertical Integration) ของคู่แข่งขันว่ามีมากน้อยเพียงไร
และผลตอบรับในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรม รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจำเป็นต้องลงทุนวิจัยตลาดเพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ตลาดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ในทำนองเดียวกันกับการวิจัยตลาดเพื่อนำไปสู่การบรรลุในสารสนเทศนั้น
และถึงแม้ว่านักการตลาดจะสามารถนำเทคนิคต่างๆ มาใช้อย่างมากมาย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้วิธีการต่อไปนี้
-
การวิจัยการตลาดเชิงคุณภาพ เช่น
การมุ่งเฉพาะไปยังกลุ่มตัวอย่าง
-
การวิจัยการตลาดเชิงปริมาณ เช่น
การสำรวจทางสถิติ
-
เทคนิคการทดลอง เช่น
การทดสอบตลาด
-
เทคนิคการสังเกตการณ์ เช่น
การสังเกตจากชาติพันธ์ในแต่ละพื้นที่
-
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาจทำการออกแบบและคอยตรวจตราและดูสภาพแวดล้อมต่างๆ
ที่หลากหลาย
การนำกระบวนการอันชาญฉลาดมาใช้กับการแข่งขัน
จะช่วยบ่งชี้ถึงแนวโน้มและความรอบรู้ในการวิเคราะห์ตลาดขององค์กร
และต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์ SWOT
ของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง
Strengths
1.
ความมีชื่อเสียง
2.
มีลูกค้าประจำ
3.
มีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญสูง
|
Weaknesses
1.
มีเงินลงทุนหมุนเวียนจำกัด
2.
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว
3.
รองรับงานในปริมาณจำกัด
เนื่องจากมีเครื่องจักรเพียง 2 เครื่อง
|
Opportunities
1.
รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนในภาคธุรกิจ
ขนาดย่อม
2.
มีสถาบันกวดวิชาที่กำลังเปิดใหม่อยู่บริเวณใกล้เคียง
|
Threats
1.
มีโรงพิมพ์ตั้งขึ้นใหม่เพิ่มขึ้น และมีการตัดราคากันเอง
2.
รัฐบาลเพิ่มภาษีนำเข้ากระดาษ ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต
|
ตัวอย่างการวิเคราะห์ SWOT ของธุรกิจโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น